16 ข้อดีของธุรกิจเครือข่ายที่หลายคนมองข้ามไป
- ลงทุนน้อย ความเสี่ยงน้อย ความเครียดน้อย ทำไม่สำเร็จไม่เสียอะไร ( การเริ่มต้นธุรกิจส่วนใหญ่ ลงทุนมาก ความเสี่ยงมาก เครียดมาก ฯ และหากเกิดความผิดพลาดมาก มีโอกาสเป็นหนี้ ฟ้องร้องเป็นความกัน )
- ทำที่ไหนก็ได้ เวลาไหนก็ได้ ทำกับใครก็ได้ ( การเป็นพนักงาน ต้องเข้างาน ออกงาน เป็นเวลา ขาดอิสรภาพในการใช้ชีวิต , การลงทุนทำธุรกิจส่วนใหญ่ ต้องอาศัยหน้าร้าน ทำเลที่ดี ซึ่งอาจต้องปักหลักรอลูกค้าอยู่ตรงนั้น หากลูกค้าไม่มา ชะตาธุรกิจก็จะขาด)
- ธุรกิจเครือข่าย มีการกระจายความเสี่ยง ซึ่งไม่ได้พึ่งพาลูกค้าน้อยราย
- ทำธุรกิจเครือข่าย ไม่ต้องสต๊อกสินค้าจำนวนมากๆ ลดความเสี่ยงในตัว
- ไม่ต้องตามทวงหนี้ ไม่เกิดหนี้เสีย ( ธุรกิจธรรมดานั้น ด้วยความอยากขาย บางครั้งขายได้ แต่เก็บเงินไม่ได้ มีให้เห็นอยู่บ่อย ส่งผลให้ธุรกิจขาดกระแสเงินสดหมุนเวียน กิจการอาจจะไปไม่รอดได้ แต่ธุรกิจเครือข่ายค้าขายเงินสดเท่านั้น )
- ไม่ต้องจ้างนักบัญชี ไม่ต้องจ้างนักการเงิน( ธุรกิจธรรมดา ที่ทำแล้วมีรายได้เป็นแสน ก็จำเป็นต้องจ้าง นักบัญชี นักการเงิน เข้ามาบริหารจัดการ ซึ่ง หากเราตรวจสอบไม่ดี นักบัญชี นักการเงินโกงไปอีก ก็วุ่นวาย ขาดทุน และต้องมีผู้สอบบัญชี ค่าสอบบัญชีต่อเดือน 2,500 ขึ้นไป ค่าตรวจสอบรายปี 15,000 ขึ้นไป )
- ไม่ต้องจ้างพนักงาน ทุกคนในเครือข่ายทำเพื่อตัวเอง เรามีหน้าที่ช่วย ไม่ต้องจ่ายเงินเดือนให้ใคร ยอดขายขึ้น หรือลง ไม่ต้องแบกรับ fix cost เช่น ค่าเช่า ค่าพนักงาน ค่าโฆษณาส่งเสริมการขาย
- ไม่ต้องคอยควบคุม ตรวจสอบ ดูแล การค้าธรรมดา หากเราจ้างใครมา แล้วต้องจ่ายเงินเดือน เราต้องหมั่นคอยตรวจสอบ ว่างานเดินมั๊ย หากไม่ทำงาน หรือทำงานได้ไม่เต็มที่ หรือลาบ่อยๆ หรือโกง บริษัทอยู่ บริษัทก็เสียหาย
- ไม่ต้องมีทำเล ค่าทำเลแพง และเป็นความเสี่ยง( หลายคนเปิดร้าน ขายนั่น ขายนี่ แต่เนื่องจากmoderntrade makro bigc carefour lotus top ดูดลูกค้าไปหมด อาจทำให้เงินทุนอาจจมกับทำเลได้ ไม่ว่าจะซื้อมา หรือเซ้ง ก็ตาม หากเช่าแล้วได้ทำเลดี สุดท้ายผู้ให้เช่า เห็นการค้าดี ก็ขอขึ้นค่าเช่าตามระเบียบ )
- ไม่ต้องเก่ง หรือต้องมีหัวการค้ามาก ก็สามารถทำได้ คนรวยส่วนใหญ่ต้องเก่งมาก เช่น พ่อค้า นักกฎหมาย นักร้อง นักดนตรี แต่ธุรกิจเครือข่าย ใช้ส่วนดีของแต่ละคนมารวมพลังกัน เช่น เราพูดไม่เก่ง ก็ไปหาคนพูดเก่งมาเป็นลูกทีม เป็นการแชร์ความสามารถร่วมกัน
- อิสรภาพทางการเงินและเวลา ซึ่งหาแทบไม่ได้ในงานทั่วไป
- ได้พัฒนาตัวเอง ในการพูด การฟัง พัฒนาบุคลิกภาพ และทักษะอีกหลายอย่าง
- ทำให้เข้าใจระบบการค้า และวงจรของธุรกิจ ด้วยการเป็นเจ้าของธุรกิจเอง
- อัพไลน์ ดาวไลน์ ต่างอยู่ในฐานะเดียวกัน บนกติกาเดียวกัน เสมอภาคไม่มีใครเป็นเจ้านาย ลูกน้องกัน ทุกคนเป็นผู่ร่วมงาน เป็นเพื่อนร่วมทีมเดียวกัน ประสบความสำเร็จ ผิดหวัง ล้มเหลว หรือได้รับชัยชนะ เหมือนๆกัน ( การค้าทั่วไป มุมของเจ้านาย กับลูกน้องก็ยืนกันคนละข้างแล้วครับ )
- ได้ช่วยให้คนมีรายได้เสริม หรืออาจเป็นรายได้หลักในวันข้างหน้า
- รายได้เป็นแบบทวีคูณ เช่น เดือนนี้ผมสปอนเซอร์ได้ 1 คน แต่ลูกทีมต่างก็ช่วยสปอนเซอร์ด้วย เปรียบเหมือนคานผ่อนแรงที่สามารถทวีคูณลูกทีมเพิ่มขึ้นกลายเป็น 100 คนแทน ด้วยเหตุนี้ ลองคิดดูเล่นๆสิครับว่า หากเรามีองค์กร 1000 คน แต่ละคนไปชวนคนละ 1 คน องค์กร จะเป็น 2,000 คนในทันที !!!